
เนื้อหาเน็ตฟลิกซ์จากเกาหลีเรียกว่าไปได้สวยและกล้าทะเยอทะยานมากขึ้นในทุกเรื่องทีเดียว เห็นได้ชัดขึ้นไปกับเรื่องนี้ด้วยว่า พวกเขาไม่ได้มองแค่ความนิยมในเอเชียอีกแล้วแต่จะสานต่อความสำเร็จในระดับโลก อย่างที่ซีรีส์ซอมบี้โชซอนอย่าง ‘Kingdom’ กรุยทางไว้สวยงาม
ตัวเนื้อหาอาจเรียกได้ว่ามีกลิ่นอายที่แปลกใหม่สำหรับออริจินัลคอนเทนต์ของเกาหลีที่จะเอาตัวละครจำนวนมากมาเล่นเซอร์ไววัลเกม ซึ่งผู้ชมหนังน่าจะคุ้นชินกับหนังหรือซีรีส์ของญี่ปุ่นเสียมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดเน็ตฟลิกซ์ญี่ปุ่นเองก็เพิ่งมีซีรีส์อย่าง ‘Alice in Borderland อลิสในแดนมรณะ’ มาประกาศความเป็นราชาแนวเซอร์ไววัลเกมหมาด ๆ ด้วย
หากแต่จุดเด่นของ ‘Squid Game เล่นลุ้นตาย’ ที่แตกต่างชัดเจน คือการสอดแทรกการละเล่นของเด็กเกาหลีมาคิดเป็นเกมแต่ละเกมได้อย่างน่าสนใจ เช่น เกมปลาหมึก ที่ผสมระหว่างตี่จับกับเกมตาราง โดยยังกลมกลืนกับบางด่านที่ผู้ชมนอกเกาหลีก็สามารถเข้าใจได้ง่าย เช่นเกมเออีไอโอยู-หยุด ที่แม้แต่เด็กบ้านเราก็น่าจะเคยเล่น และบางด่านก็นำกลไกจิตวิทยามาเล่นกลายเป็นแนวแบตเทิลรอยัลได้อย่างน่าสนใจทีเดียว เห็นได้เลยว่าคิดด่านคิดเกมมาละเอียดดีไม่น้อย ส่วนตัวชอบเกมที่หยิบเอาความกลัวจากคลิปพวกพื้นกระจกที่คนเดินออกไปแล้วแตกมาประยุกต์เล่นเป็นเกมได้อย่างน่าตื่นเต้นดีทีเดียว
ทั้งนี้ที่ชัดเจนอีกอย่างคือ ‘Squid Game’ ไม่ใช่เซอร์ไววัลเกมที่เน้นการสังเกตหาจุดอ่อนของระบบ และใช้ความเฉลียวฉลาดเพื่อพิชิตสไตล์ญี่ปุ่นเลย หากแต่เอาหนังแนวเล่นเกมมาเป็นผิวหนังเพื่อห่อหุ้มโครงสร้างแกนกลางที่เป็นเรื่องของดราม่าระหว่างตัวละครที่ต้องมาอยู่ร่วมกันและมีภูมิหลังที่เป็นเหตุผลจูงใจให้พวกเขาชนะไม่ด้อยไปกว่ากันมากกว่า ถ้าเทียบสัดส่วนความฉลาดกับดราม่าของญี่ปุ่นจะประมาณ 70:30 ของเกาหลีก็น่าจะกลับกันเป็น 30:70 แทนนั่นเอง ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่ได้เลยว่าจำเป็นที่จะต้องใช้เรื่องจังหวะพอดีหรือความบังเอิญมาบ้างเพื่อให้เรื่องเดินไปได้ เพราะตัวละครไม่เก่งขนาดจะเอาชนะระบบหรือกติกาของเรื่องได้
ดู ซีรี่ย์เกาหลี ได้ที่ IMOVIE-HD.CO